วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid)

เป็นเส้นเลือดขอดที่เกิดขึ้นในทวารหนัก สาเหตุยังไม่ทราบ มักพบว่ามีญาติพี่น้องเป็นด้วย มีสาเหตุเสริมเช่น อาการท้องผูกเรื้อรัง ,การตั้งครรภ์, มีก้อนเนื้องอกในท้อง, ต่อมลูกหมากแข็ง

อาการของริดสีดวงทวาร
เลือดไหลออกเป็นหยดหลังถ่ายอุจจาระ มักเกิดขึ้นเวลาท้องผูก ถ่ายอุจจาระแข็งโดยมากจะไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างไร ยกเว้นริดสีดวงอักเสบหรือหลุดอออกมาข้างนอกอาจทำให้ปวดได้ ถ้ามีเลือดออกเรื้อรัง ก็อาจมีอาการซีดได้ ปกติจะไม่ค่อยมีอาการรุนแรงหรืออันตราย แต่จะเป็นๆหายๆเรื้อรัง  น่ารำคาญหรือทำให้วิตกกังวล

การรักษา
1.ระวังอย่าให้ท้องผูก ให้ดื่มน้ำและกินผักผลไม้ให้มาก
2. ถ้าปวดมาก ให้กินยาแก้ปวด นั่งแช่ในน้ำอุ่นวันละ 2-3 ครั้ง ๆ ละ 15-30 นาที
3. ถ้ามีอาการอักเสบ ให้ยาต้านจุลชีพ
4. ถ้าซีด ให้เฟอร์รัสซัลเฟต วันละ 3 ครั้งๆละ 1 เม็ด
5. ถ้าหัวริดสีดวงหลุดออกมาข้างนอก ให้ใส่ึถุงมือชุบสบู่ แล้วใช้นิ้วดันหัวกลับเข้าไป
6.ถ้าเป็นเรื้อรังหรือสงสัยจะมีโรคอื่นร่วมด้วย แนะนำไป ร.พ.

คางทูม (Mumps)

เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของต่อมน้ำลาย โดยเฉพาะต่อมน้ำลายข้างหู (parotid glands) พบมากในเด็กอายุ 6-10 ปี มักไม่พบในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ หรือผู้ใหญ่อายุมากกว่า 40 ปี พบระบาดได้บ้าง แต่ไม่มากเท่าหัดหรืออีสุกอีใส

อาการของคางทูม
มักมีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว เจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลียและปวดในรูหูหรือหลังหูขณะเคี้ยวหรือกลืนนำมาก่อน 1-3 วัน ต่อมาพบว่าบริเวณข้างหูหรือขากรรไกร ปวดบวดและกดเจ็บ ผิวหนังบริเวณนั้นอาจมีลักษณะแดงร้อนและตึง

การรักษา
1.ให้นอนพักมากๆ
2.ดื่มน้ำมากๆ
3.เช็๋ดตัวเวลามีไข้สูง
4.ให้ยาลดไข้แก้ปวดแอสไพรินหรือพาราเซตามอล
5.ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบบริเวณที่เป็นคามทูม
6.บ้วนปากด้วยน้ำผสมเกลือบ่อยๆ

อีสุกอีใส

พบมากในเด็ก พบระบาดตอนฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อน


อาการของอีสุกอีใส
มีไข้ไม่สูงนัก และอ่อนเพลียเล็กน้อย จะมีตุ่มใสๆ และคันขึ้นพร้อมๆ กับไข้หรือ 1 วันหลังจากมีไข้

สิ่งที่ตรวจพบ
ตุ่มขนาด 3-5 มิลลิเมตร กระจายอยู่ตามหน้าและตามลำตัว อาจขึ้นตามแขนขาบ้าง แต่ไม่มาก ลักษณะของตุ่มจะคันและสุกไม่พร้อมกันทั่วร่างกายเหมือนชื่อโรคคือ บางอันเริ่มขึ้นเป็นตุ่มใสๆ บางอันก็เริ่มกลัดหนอง และบางอันก็เริ่มตกสะเก็ด

การรักษาโรคอีสุกอีใส
1.ดื่มน้ำมากๆ ให้ยาลดไข้ แอสไพรินหรือพาราเซตามอล ทายาแก้ผดผื่นคัน
2.ถ้าตุ่มกลายเป็นหนอง ให้ยาต้านจุลชีพ
3.ถ้ามีอาการแทรกซ้อน เช่น หอบมาก, ชัก, ไม่ค่อยรู้ตัว ให้รีบส่งโรงพยาบาล
4.ควรแยกคนไข้ออกต่างหาก
5.แนะนำไม่ให้ผู้ป่วย แกะหรือเกาตุ่มหนองเพราะจะเป็นแผลเป็น ควรตัดเล็บให้สั้น

ไข้หวัด (Common cold)

   
ไข้หวัด เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุดทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ต้องเสียแรงงานและเงินทองไปปีละมากๆ เป็นโรคที่ยังไม่มียาป้องกันอย่างได้ผล

อาการของไข้หวัด  มีไข้ตัวร้อนเป็นพักๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย ปวดหนักศรีษะเล็กน้อย เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกใส จาม คอแห้ง หรือเจ็บคอเล็กน้อย ไอแห้งๆ หรือไอมีเสมหะเล็กน้อยเป็นลักษณะสีขาว บางครั้งอาจทำให้รู้สึกเจ็บลิ้นปี่เวลาไอ

การรักษาไข้หวัด
1.พักผ่อนมากๆ ห้ามตรากตรำทำงานหนักหรือออกกำลังกายมากเกินไป
2.ใส่เสื้อผ้าหนาๆให้ร่างกายอบอุ่น
3.อย่าอาบน้ำเย็น
4.ควรกินอาหารอ่อน น้ำหวานและเครื่องดืมร้อนๆ
5.ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยลดไข้ และทดแทนน้ำที่เสียไป
6.ใช้ผ้าเช็ดน้ำชุบและเช็ดตัวเวลามีไข้สูง